วันเสาร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2555

เงินสี่ด้านกับคนทำงานประจำ


 เงินสี่ด้านกับคนทำงานประจำ

ตั้งแต่ อดีตเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ผู้คนมักคิดว่ามีรูปแบบในการทำงานหาเงินมากมายหลากหลาย เช่น การทำงานหาเงินด้วยการเป็นครู การทำงานหาเงินด้วยการเป็นนักร้อง การทำงานหาเงินด้วยการเปิดร้านขายของ และอื่นๆอีกมากมาย แต่คุณรู้มั้ยว่าจริงๆแล้วรูปแบบในการทำงานหาเงินหลักๆแล้วมีเพียง 4 แบบเท่านั้น

1. "การทำงานหาเงินด้วยการเป็นลูกจ้างประจำ"
หากคุณเป็นลูกจ้างประจำหรือมนุษย์เงินเดือน คุณจะได้รับเงินจากนายจ้าง ลูกจ้างมีหลายระดับ ตั้งแต่ลูกจ้างที่มีรายได้น้อย เช่น พนักงานขายตั๋วหนัง ไปจนถึงลูกจ้างที่มีรายได้สูง เช่น ผู้บริหารบริษัท แต่หากวันใดคุณไม่สามารถทำงานได้ รายได้ของคุณก็จะไม่มีเข้ามา

2. "การทำงานหาเงินด้วยการเป็นลูกจ้างอิสระหรือเจ้าของธุรกิจที่ต้องนั่งเฝ้า"
หากคุณเป็นลูกจ้างอิสระหรือเจ้าของธุรกิจที่ต้องนั่งเฝ้า คุณจะได้รับเงินจากลูกค้าที่มาซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากธุรกิจของคุณหรือ มาจ้างคุณทำงานให้สักชิ้น คุณอาจทำงานเพียงคนเดียวหรือเป็นธุรกิจที่มีสำนักงานและมีลูกจ้างทำงานให้ คุณ แต่คุณก็ต้องมานั่งเฝ้าหรือทำงานในระบบธุรกิจของคุณแทบจะทุกเวลา หากวันใดคุณไม่สามารถทำงานได้ ธุรกิจก็จะเดินหน้าต่อไปไม่ได้ รายได้ของคุณก็จะไม่มีเข้ามาเช่นเดียวกับกรณีของการเป็นลูกจ้างประจำ

3. "การทำงานหาเงินด้วยการเป็นนักลงทุน"
หากคุณเป็นนักลงทุน คุณจะมีรายได้จากทรัพย์สินที่คุณถือครองโดยไม่จำเป็นต้องขายทรัพย์สินเหล่านั้น เช่น ถ้าคุณเป็นเจ้าของหุ้นบริษัท ปตท. พอสิ้นปีบริษัทก็ประกาศจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 2 บาท ถ้าคุณมีหุ้นอยู่ 1,000 หุ้น คุณก็ได้รับเงินปันผลจากกำไรของบริษัท ปตท. เป็นจำนวน 2,000 บาท คุณมีรายได้จากหุ้นจำนวนนั้นและยังคงเป็นเจ้าของมันอยู่เหมือนเดิม การเป็นนักลงทุนจะทำให้คุณมีรายได้จากทรัพย์สินถึงแม้ว่าคุณไม่สามารถทำงาน ได้ เพราะคุณไม่ต้องสละเวลามากมายมาดูแลทรัพย์สินที่คุณเป็นเจ้าของ อาจจะหนักและเครียดบ้างในช่วงที่ต้องตัดสินใจว่าจะซื้อทรัพย์สินอะไร แต่เมื่อจัดการระบบทุกอย่างเรียบร้อย ก็จะเหลือเพียงแค่การบริหารจัดการเพียงเล็กน้อยในบางเวลาเท่านั้น ดังนั้นการเป็นนักลงทุนจึงทำให้คุณมีอิสรภาพและความมั่นคงทางการเงิน แต่การที่คุณจะเป็นนักลงทุนที่มีรายได้มากพอสำหรับการใช้ชีวิตในแบบที่คุณต้องการ คุณจำเป็นต้องมีเงินก้อนหนึ่งเพื่อซื้อทรัพย์สินที่มากพอมาไว้ในครอบครอง กล่าวคือคุณต้องทำตัวเป็นนักซื้อทรัพย์สิน

4. "การทำงานหาเงินด้วยการเป็นเจ้าของธุรกิจที่ไม่ต้องนั่งเฝ้า"
หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่ไม่ต้องนั่งเฝ้า คุณก็จะมีรายได้เช่นเดียวกับเจ้าของธุรกิจอีกแบบดังที่กล่าวมาข้างบน เพียงแต่ว่า หากคุณไม่สามารถทำงานได้ คุณก็ยังจะมีรายได้จากระบบธุรกิจที่คุณสร้างขึ้น เช่น ร้านขายเครื่องเขียนที่มีผู้จัดการร้านคอยดูแลให้ระบบทุกอย่างดำเนินไปด้วย ดี ระบบนี้เป็นระบบบริหารงานที่คุณเซ็ตขึ้นมา มีระบบบาร์โค้ดเพื่อป้องกันการโกงเงินของพนักงาน มีลูกจ้างคอยดูแลเรื่องการขนส่งสินค้า และมีผู้จัดการคอยดูแลให้ธุรกิจดำเนินไปตามระบบที่คุณวางไว้ โดยที่คุณเพียงแค่ต้องตรวจสอบการดำเนินงานเป็นระยะๆ แต่ไม่จำเป็นต้องเข้าไปดูแลในทุกๆส่วนตลอดเวลา   ใครที่สามารถสร้างระบบธุรกิจแบบนี้ได้ถือว่าเก่งมาก เป็นนักสร้างทรัพย์สินซึ่งจะสร้างกระแสรายได้ให้กับตัวเองแม้จะไม่สามารถทำงานได้ ข้อแตกต่างจากนักลงทุนคือ นักลงทุนซื้อทรัพย์สินแต่เจ้าของธุรกิจสร้างทรัพย์สิน  

ลูกจ้างประจำสามารถสร้างความมั่นคงให้กับฐานะทางการเงินของตัวเองได้ ด้วยการเป็นนักลงทุนเพื่อซื้อและสะสมทรัพย์สิน หรือ เป็นนักธุรกิจเพื่อสร้างและสะสมทรัพย์สิน ควบคู่ไปกับการทำงานประจำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น