หารายได้เสริมด้วยการขายสินค้าใน Ebay ตอนที่ 1
คุณรู้หรือไม่ว่ามันง่ายมากในการเริ่มต้นหาเงินบนพื้นที่แผงลอย Ebay เมื่อคุณได้ทำการสมัครเปิดบัญชีแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายแล้ว (free acount) วิธี การที่ดีที่สุดเพื่อให้คุณได้มีโอกาสรับรู้ว่าการขายในตลาดออนไลน์นั้นเป็น เช่นไรคือการเปิดประมูลสิ่งของเครื่องใช้ที่คุณไม่ต้องใช้มันอีกแล้ว เมื่อคุณมีประสบการณ์ในการติดต่อซื้อขายสินค้าบนอีเบย์แล้ว คุณก็อาจจะพร้อมแล้วสำหรับการเช่าพื้นที่ร้านค้าเพื่อทำการขายสินค้าอย่าง เป็นตุเป็นตะ
เมื่อคุณคิดจะตั้งร้านค้าออนไลน์ในตลาดอีเบย์ คุณต้องตัดสินใจว่า ธุรกิจร้านประมูลสินค้าของคุณจะเดินไปในทิศทางใด มันควรจะออกมาในรูปแบบไหน แน่นอนว่าคุณสามารถขายอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ แต่ ถ้าคุณต้องการทำให้ร้านของคุณเป็นที่จดจำได้ง่าย มันคงช่วยได้มากหากร้านของคุณเป็นที่รู้จักในเรื่องของการขายสินค้าชนิดใด ชนิดหนึ่ง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณควรบีบรายการชนิดสินค้าให้แคบมากจนเกินไป... ในทางตรงกันข้าม ชนิดของสินค้าควรถูกนิยามอย่างกว้างๆ เช่น ถ้าชนิดของสินค้าที่จะมีขายในร้านของคุณคือ "ของเล่นเด็ก" คุณคงไม่คิดว่าผู้ซื้อจะเข้ามามองหาของเล่นชิ้นเดิมที่วางขายมานานหลายปี แล้วถ้ามีก็คงน้อยคน ในช่วงระยะเวลาหนึ่งๆ สินค้าที่ควรจะเป็นตัวชูโรงของการเปิดร้านประมูลของขายบน Ebay ก็คือสินค้าที่กำลังหรือกำลังจะอยู่ในความสนใจและความต้องการของผู้ซื้อ คุณอาจจะใช้เครื่องมือวิเคราะห์และค้นหาอันทันสมัยที่ทาง Ebay จัดเตรียมไว้ เพื่อทำการประเมินว่าสินค้าแบบใดกำลังหรือกำลังจะเป็นที่นิยมและมันถูกซื้อ ขายอยู่ที่ราคาประมาณเท่าไหร่
ด้วยเหตุฉะนี้ ชื่อของชนิดของสินค้าที่คุณจะนำมาประกาศขายจึงมีความสำคัญเพราะมันคือตัวที่ จะทำให้ผู้ซื้อจินตนาการเห็นภาพหน้าร้านของคุณเมื่อผู้ซื้อต้องการสินค้า ชนิดนั้นๆ ลองพิจารณาคำต่อไปนี้ ขายของเล่นเด็ก ขายของเล่นเด็กที่เป็นตุ็กตา ขายของเล่นเด็กที่เป็นตุ๊กตาผู้หญิง ขายของเล่นเด็กที่เป็นตุ๊กตาผู้หญิงผมยาว ขายของเล่นเด็กที่เป็นตุ๊กตาผู้หญิงผมยาวสีทอง
ณ จุดนี้คุณคงพอได้ไอเดียอะไรดีๆแล้ว แต่นั้นยังไม่ใช่ทั้งหมดที่เรา 99moneyonline จะเล่าให้ฟังเกี่ยวกับการหาเงินบน Ebay ยังมีต่อใน
หารายได้เสริมด้วยการขายสินค้าใน Ebay ตอนที่ 2
ตอนนี้คุณได้ไอเดียแล้วว่าคุณควรเลือกสินค้าแบบใดไปขาย คราวนี้คุณก็ต้องรู้ว่าจะหาสินค้าแบบนั้นได้ที่ไหน ความจริงข้อหนึ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการค้าขายและการทำธุรกิจหรือแม้แต่ การทำงานก็คือ ถ้าคุณเป็นพ่อค้า...ไม่มีพ่อค้าแม่ค้าเก่งๆคนไหนหรอกที่จะยอมบอกคุณว่าเขา ได้สินค้าที่กำลังทำกำไรให้เขามาจากไหน โดยเฉพาะถ้าหากคุณกำลังคิดจะขายสินค้าชนิดเดียวกับเขา ถ้าคุณเป็นพนักงาน...ไม่มีเพื่อนร่วมงามคนไหนหรอกที่จะบอกคุณว่าเขาทำอย่าง ไรถึงได้มีทักษะการทำงานที่ทำให้เจ้านายขึ้นเงินเดือนและไม่ยอมให้เขาลาออก อาจจะมีข้อยกเว้นบ้างถ้าคนเหล่านั้นเป็นเพื่อนตายของคุณ (ซึ่งหายาก) ดังนั้น ในการหาสินค้าที่ตรงกับจินตนาการของคุณเพื่อนำมาขายใน Ebay คุณจำเป็นต้องลงทุนลงแรงสักนิดด้วยการออกเดินทางค้นหา ทั้งในโลกออนไลน์และโลกออฟไลน์ เราไม่รู้ว่าคุณจะเจอหรือไม่ แต่ที่เรารู้แน่ๆคือ ถ้าคุณไม่ออกค้นหาคุณก็ไม่มีทางเจอแน่นอน...
มีวิธีการหลักๆอยู่สองวิธีเพื่อทำการขายสินค้าที่คุณต้องการ ทั้งสองวิธีนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย มันก็เพียงขึ้นอยู่กับตัวคุณว่าวิธีไหนจะโดนใจคุณที่สุด
วิธีที่หนึ่งคือการ ขายสินค้าโดยที่คุณไม่ต้องมีสินค้านั้นมาเก็บไว้ที่บ้านของคุณ คุณไม่ต้องทำการส่งสินค้า หน้าที่ของคุณคือการโฆษณาหาผู้ที่สนใจซื้อสินค้านี้ในตลาด Ebay ผ่านหน้าร้านของคุณ คุณเพียงแค่จ่ายเงินสำหรับสินค้าที่คุณได้รับเงินจากลูกค้าที่สั่งซื้อมัน แล้วเท่านั้น ผู้ขายที่มีสินค้าจะทำการจัดเก็บและส่งสินค้าแทนคุณ พวกเขาคือ Dropshipper ก็ตามชื่อนั่นแหละครับ Drop = ปล่อยลง Ship = ส่งสินค้า กล่าวคือ พวกเขาเป็นผู้ปลดเปลื้องภาระในการส่งสินค้าออกไปจากตัวคุณ คุณทำหน้าที่หาคนมาซื้อสินค้าให้ได้ก็พอ จะว่าไปมันก็คล้ายกับการที่คุณทำหน้าที่เป็นนายหน้าขายสินค้าให้เขานั่นแหละ ฟังดูไม่ดีสำหรับบางคน แต่คุณต้องไม่ลืมว่า คุณแทบจะไม่มีความเสี่ยงใดๆ ถ้าขายไม่ได้แล้วสินค้าค้างสต๊อก คนที่เป็น Dropshipper จะเป็นฝ่ายรับผลกระทบไปเต็มๆ อย่างไรก็ตามการที่คุณจะขายสินค้าด้วยวิธีนี้ได้ คุณต้องสมัครเข้าร่วมกับโปรมแกรมสนับสนุนการขายของ Dropshipper นั้นๆเสียก่อน ซึ่งคุณต้องเสียค่าธรรมเนียมค่าบริการบ้างในตอนแรก และชนิดของสินค้าที่คุณสามารถเลือกมาขายได้ก็มีจำกัด ขึ้นอยู่กับ Dropshipper แต่ละเจ้าด้วยว่ามีสินค้าให้คุณเลือกหลากหลายแค่ไหน
วิธีที่สองคือการ ซื้อสินค้าจากคนขายส่งหรือ Wholesaler ซึ่งคุณต้องซื้อสินค้ามาเก็บไว้เป็นจำนวนมากแต่คุณสามารถซื้อได้ในราคาถูก เพื่อนำไปขายต่อในราคาที่แพงขึ้น ด้วยวิธีนี้คุณต้องมีพื้นที่เพื่อจัดเก็บสินค้าและเงินทุนเพื่อทำการซื้อ สินค้าเหล่านั้นมาจัดเก็บไว้ล่วงหน้า ก่อนที่จะมีคำสั่งซื้อเข้ามา คุณจะเสียความน่าเชื่อถือถ้ามีคนสั่งซื้อสินค้าที่คุณแสดงรูปให้ดูใน Ebay แล้วคุณไม่สามารถหาสินค้านั้นได้ ซึ่งทำให้ลูกค้าคนนั้นไม่ได้รับสินค้า ถ้าเป็นเช่นนั้น ต่อไปคุณจะหาลูกค้าได้ยากขึ้นเรื่อยๆๆๆ เพราะผู้ซื้อใน Ebay สามารถให้คะแนนและลงความคิดเห็นเกี่ยวกับผู้ขายแต่ละรายที่พวกเขาใช้บริการ ได้ ถ้าความน่าเชื่อถือและเสียงตอบรับจากลูกค้านั้นต่ำ คนอื่นๆที่สนใจสินค้าของคุณอาจจะตัดสินใจไม่ซื้อเพราะกลัวว่าจะต้องหัวเสีย และเสียใจครับ นอกจากนั้นสินค้าที่คุณซื้อมากักเก็บไว้อาจจะขายไม่ออกก็ได้ ซึ่งก็ทำให้เกิดการค้างสต๊อกของสินค้าและลงท้ายด้วยการขายเลลังในราคาขาดทุน หากสินค้านั้นมีวันหมดอายุ แต่ความเสี่ยงนี้สามารถถูกลดให้เหลือน้อยลงได้ด้วยการวิเคราะห์ตลาดจากวิธี ที่เราแนะนำไปข้างต้นก่อน ตรวจดูให้แน่ใจว่าสินค้าเป็นที่ต้องการของตลาดแล้วก็ค่อยสั่งซื้อสินค้านั้น มาขาย เพียงเท่านี้ โอกาสที่สินค้าของคุณจะขายไม่ออกก็จะมีน้อยมาก แต่คุณจะหา Wholesaler ได้ที่ไหนและจะติดต่อได้อย่างไร อ่านกันต่อในตอนสุดท้ายเลยครับ
หารายได้เสริมด้วยการขายสินค้าใน Ebay (สุดท้าย)
การขายสินค้าใน Ebay นั้น สินค้าที่ขายดีมักจะเป็นสินค้าที่หาซื้อตามท้องตลาดได้ยาก เช่น งานฝีมือท้องถิ่น ของสะสม เช่น สแตมป์ ดังนั้นการหาซื้อสินค้าเหล่านี้แล้วเอามาประกาศขายที่ Ebay จึงมักดึงดูดจำนวนผู้ที่สนใจเข้าประมูลราคามากกว่าสินค้าโดยทั่วๆไป แต่คุณจะหาสินค้าเหล่านั้นได้จากที่ไหนล่ะ?
วิธีในการเข้าถึงผู้ผลิตสินค้าที่คุณสนใจและคิด ว่าจะขายดีคือดูที่ห่อหรือกล่องบรรจุสินค้า บนนั้นมักจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ผลิตด้วย คุณสามารถโทรเข้าไปสอบถามเพื่อดูว่าเขาผลิตสินค้าที่คุณต้องการหรือไม่ และรายละเอียดว่าจะซื้อสินค้าจากเขาได้อย่างๆร ถ้าเขามีเว็บไซต์ มันก็ยิ่งง่ายสำหรับคุณที่จะตรวจสอบข้อมูลของพวกเขาบนหน้าเว็บไซต์ก่อนทำการ ติดต่อจริงๆ
อีกวิธีหนึ่งที่หลายคนอาจมองข้ามเพราะมันดูเหมือนจะง่ายมากๆ ก็คือ การค้นหาผู้ผลิตหรือผู้ขายส่งใน Google ด้วยการพิมพ์คำคีย์เวิล์ดที่คุณคิดว่าเกี่ยวกับสินค้าในจินตนาการของคุณ มันเป็นไปได้ที่จะพบเจอพ่อค้าขายส่งที่ยอดเยี่ยมด้วยวิธีนี้ อย่าลืมว่าตอนนี้ใครๆก็พยายามใช้อินเตอร์เนตในการโปรโมตและหาลูกค้าทั้งนั้น เมื่อเวลาผ่านไป คุณก็จะเคลื่อนจากการมีแหล่งค้นหาสินค้าเพียงแค่แหล่งเดียว ไปเป็น มีแหล่งเสาะหาสินค้าจำนวนมากมายไว้ในกำมือ
การค้าขายใน Ebay นั้นคุณต้องไม่ลืมว่ามันก็คล้ายกับการค้าขายทั่วๆไปที่เราคุ้นเคย ลูกค้ามีสิทธิ์และเสรีภาพเต็มที่ในการวิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่เขาได้รับจากการขายสินค้าของคุณ ถ้าเขาพอใจ คุณจะพบว่า Feedback ที่คุณได้ก็จะดีไปด้วย ลูกค้าจะให้คะแนนความพอใจกับคุณสูงกว่าผู้ขายคนอื่นๆ เมื่อเวลาผ่านไป การค่อยๆสร้างกระแสตอบรับที่ดีนี้ จะดึงดูดลูกค้าคนอื่นๆที่กำลังดูสินค้าของคุณให้ตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น เพราะเขาไว้ใจในสิ่งที่ผู้ซื้อคนก่อนๆบอกไว้ ยิ่งคะแนนของคุณวิ่งขึ้นไปเร็วเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งเข้าใกล้สถานะ Powerseller มากขึ้นเท่านั้น และผู้ซื้อก็จะตัดสินใจซื้อสินค้าจากคุณง่ายมากขึ้น
ผู้ขายหลายๆคนในตลาด Ebay มีร้านค้าเป็นของตัวเอง แต่นั่นไม่จำเป็นเสมอไป โดย เฉพาะเมื่อคุณพึ่งเริ่ม มันจะดีกว่าถ้าคุณรอจนกว่าคุณจะมีรายการสินค้าที่จะขายอยู่มากพอสมควรก่อน ที่จะเปิดร้าน เพราะถ้าความหลากหลายของสินค้าที่เกี่ยวข้องกับชนิดของสินค้าที่คุณจะขายมี น้อยเกินไป ร้านคุณอาจจะดูว่างเปล่ามากกว่าจะเป็นร้านที่เปิดขึ้นมาเพื่อทำการค้า ขายอย่างเป็นจริงเป็นจัง และนั่นก็ทำให้ร้านของคุณดูน่าเชื่อถือน้อยลง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการจัดร้านและกลยุทธ์ในการสร้างความน่า เชื่อถือด้วย
สิ่งสุดท้ายที่คุณต้องพิจารณาเกี่ยวกับการขายคือ ราคาของสินค้าที่คุณกำลังจะขาย จริงอยู่ว่าคุณสามารถตั้งราคาขายให้ขึ้นอยู่กับราคาที่ผู้ประมูลเสนอ หากใครเสนอราคาซื้อสูงที่สุดในเวลาที่กำหนดก็ได้สินค้านั้นไป แต่อย่าลืมว่า ถ้าราคาซื้อถูกเสนอต่ำกว่าต้นทุนหรือไม่เป็นที่พอใจของคุณ คุณก็ต้องจำยอมขายสินค้านั้นๆไปในราคาที่ถูกกว่าความคาดหวัง ถ้าคุณใช้วิธีตั้งราคาไว้เลย คุณก็จะสามารถขายสินค้าได้ในราคาที่คุณพอใจ ถามว่าคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าสินค้าของคุณควรถูกขายด้วยวิธีเปิดประมูลหรือ ตั้งราคาที่แน่นอนไว้เลย คำตอบคือคุณควรสำรวจ ว่าคนที่จะมาซื้อสินค้าเหล่านี้น่าจะเป็นคนกลุ่มไหน สินค้าจำพวกนี้ขายในราคาประมาณเท่าไร และอื่นๆอีกมากมายซึ่งเป็นเรื่องละเอียดพอสมควร
เรา 99moneyonline แนะนำว่าคุณควรเริ่มต้นด้วยการขายสินค้าที่คุณชอบที่จะขาย อย่าพึ่งเอาสินค้าที่มีราคาแพงมาลองเพียงเพราะมันทำกำไรได้มาก ลองขายสินค้าที่เป็นที่ต้องการของตลาดในปริมาณมากเพื่อให้คุณได้เก็บเกี่ยว ประสบการณ์ในการซื้อขายบนตลาดออนไลน์ เมื่อคุณมีประสบการณ์มากขึ้นและรู้ธรรมชาติของตลาด คุณจะรู้เองว่าการขายอะไรและขายด้วยกลยุทธ์แบบใดเหมาะสมกับคุณที่สุด
เหนือสิ่งอื่นใด คุณต้องไม่ลืมว่าการค้าขายบน Ebay เป็นธุรกิจอีกรูปแบบหนึ่ง คุณอาจจะทำธุรกิจค้าขายแบบธรรมดาๆด้วยการนำสินค้ามาประกาศขายหรือเปิดประมูล บ้างเป็นครั้งคราว หรือคุณอาจจะตั้งหน้าตั้งตาเป็นเถ้าแก่อีเบย์ให้ได้ ด้วยการตั้งร้านค้าขึ้นมาในนั้น ธุรกิจทุกอย่างต้องการเวลาก่อนที่มันจะประสบความสำเร็จ แต่ถ้าคุณตั้งใจจริง คุณก็จะได้สนุกกับการเดินทางครั้งนี้ และอย่าลืมว่าเงินไม่ใช้ทั้งหมดของชีวิต เวลาในการทำอย่างอื่นนอกจากหาเงินก็สำคัญไม่แพ้กัน หากจะทำธุรกิจบนอีเบย์ก็จงมั่นใจว่าคุณกำลังสร้างระบบธุรกิจค้าขายที่คุณไม่ ต้องไปนั่งเฝ้าตลอดเวลาแต่ก็จะมีเงินไหลเข้ากระเป๋าของคุณอยู่เรื่อยๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น